เยี่ยมชมพระราชวังแวร์ซาย ฝรั่งเศส(Palace and Park of Versailles, France)

พระราชวังแวร์ซาย (Palace and Park of Versailles) เป็นพระราชวังหลวงแห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่ที่เมืองแวร์ซาย พระราชวังแวร์ซายเป็นพระราชวังที่ยิ่งใหญ่และสวยงามแห่งหนึ่งของโลก โดยถูกจัดให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกด้วยค่ะ
ในพระราชวังแวร์ซายมี
- ทั้งหมด 700  ห้อง
- ภาพวาดทั้งหมด  6,123 ภาพ
- งานแกะสลักทั้งหมด  15,034  ชิ้น และฯลฯ
(ที่จริงมีมากกว่านี้บน wikipedia  ลองหาอ่านเพิ่มเติมได้ค่ะ)

ประวัติ(อาจะยาวนิดนึง แต่มันส์มาก! ขอบอก)
จุดเริ่มต้นเกิดจากพระเจ้าหลุยส์ที่ 13 แห่งฝรั่งเศส ทรงนิยมล่าสัตว์ในป่า และทรงเห็นว่าตำบลแวร์ซายน่าจะเหมาะแก่การประทับเพื่อล่าสัตว์ จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระตำหนักขึ้นมาใน พ.ศ. 2167(ตรงกับช่วงอาณาจักรอยุธยา ในรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม (พระราชโอรสพระนเรศวร))  โดยในช่วงแรกเป็นเพียงกระท่อมเล็กๆ สำหรับพักชั่วคราวเท่านั้น

เมื่อ พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส แห่งฝรั่งเศส ขึ้นครองบัลลังก์ มีประสงค์ที่จะสร้างพระราชวังแห่งใหม่ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการปกครองของพระองค์ จึงเริ่มปรับปรุงพระตำหนักเดิมในปี พ.ศ. 2204(*เพื่อให้ง่ายต่อการจำ* ตรงกับรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ของอาณาจักรอยุธยาค่ะ)     ซึ่งใช้เงินทั้งหมด 500,000,000 ฟรังก์   คนงาน 30,000 คน และใช้เวลาสร้างอยู่ถึง 30 ปี   จึงแล้วเสร็จในพ.ศ. 2231  ทุกส่วนทำด้วยหินอ่อนสีขาว เป็นแบบอย่างศิลปกรรมที่งดงามมาก ภาย ในแบ่งออกเป็นห้องๆ เช่น ห้องบรรทม ห้องเสวย ห้องสำราญ ฯลฯ ทุกห้องล้วนมีเครื่องประดับงดงามตระการตาและภาพเขียนที่มีชื่อเสียง

ถึงแม้พระราชวังจะมีการก่อสร้างเสร็จสิ้นแล้ว แต่ก็ยังมีการต่อเติม ตกแต่งอยู่ตลอด ซึ่งการก่อสร้างพระราชวังแวร์ซายแห่งนี้ได้นำเงินมาจากค่าภาษีอากรของราษฎรชาวฝรั่งเศส  ซึ่งยุคนั้นฝรั่งเศสที่มีปัญหาเศรษฐกิจอยู่ในขั้นวิกฤตอยู่แล้ว  ทำให้ประชาชนไม่พอใจและลุกขึ้นมาประท้วงกันค่ะ  ในที่สุดก็เกิดการปฏิวัติฝรั่งเศส (French Revolution) และพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 แห่งฝรั่งเศส กับพระนางมารี อองตัวเนต ก็ถูกจับประหารด้วยกิโยติน ในวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2332  (*เพื่อให้ง่ายต่อการจำ* เหตการณ์นี้ตรงกับช่วงรัชกาลที่ 1 ของกรุงรัตนโกสินทร์ค่ะ)

ตอนที่เราเยี่ยมชมภายในพระราชวัง รู้สึกทึ่งมากๆ เห็นอะไรก็สวยไปหมด ทั้งสถาปัตยกรรมภายใน ภาพวาดเก่าๆ ของตกแต่ง รูปปั้น ฝาผนังนี่ก็สวยมากๆ  แต่จะมีบางห้องที่เค้าไม่ให้ถ่ายรูป  ถ้าเราเห็นป้ายก็ไม่ถ่ายดีกว่านะคะ
ตอนที่เราไป เป็นช่วงที่ครบรอบการ์ตูนอะไรซักอย่างเนี่ยแหละของญี่ปุ่น  เค้าก็เอาตัวการ์ตูนมาวางไว้ตามมุมต่างของพระราชวัง  เรารู้สึกไม่เข้ากันเลยอ่ะ(เดี๋ยวจะได้เห็นกันที่รูปประกอบเนี่ยค่ะ)
พอเดินออกมาที่สวนก็สวยดีค่ะ กว้างใหญ่มาก โดยเฉพาะพวกรูปปั้นประดับสวนเนี่ยเราชอบจังเลย (ที่จริงเปรียบเทียบกันไม่ได้เพราะคนละสไตล์ แต่ถ้าเทียบแล้วเราชอบสวนที่แม่ฟ้าหลวง  เชียงรายมากกว่าค่ะ)

เดินๆไปอีกหน่อยก็จะเป็นส่วนของพระตำหนักเล็ก(The Grand Trianon) และ พื้นที่ของพระนางมารี อองตัวเนตค่ะ(Marie-Antoinette's estate)

ในส่วนของพระตำหนักเล็ก(The Grand Trianon)
ซึ่งสร้างด้วยหินอ่อนสีชมพู  สวยดีค่ะ  ข้างในก็โชว์เกี่ยวกับของใช้ภายในราชวงค์สมัยก่อน ทั้งโต๊ะ ตู้ เตียง เครื่องประดับ ภาพวาด ฯลฯ  เราว่าสวยดีค่ะ เห็นมุมใหนก็น่าถ่ายรูปไปหมด
ตอนแรกพระราชวังนี้เป็นที่อยู่ของพระสนม มาดามดู แบรรี่   และภายหลังเป็นของพระนางมารี อองตัวเนตค่ะ

ส่วนพื้นที่ของพระนางมารี อองตัวเนต(Marie-Antoinette's estate)
ที่นี่เป็นเหมือนหมู่บ้านขนาดเล็ก ที่ซึ่งพระนางมารี อองตัวเนตทรงโปรดที่จะมาคลายเครียด  ใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ชนบทและหลีกหนีจากความวุ่นวาย หรูหราโอ่อ่าของพระราชวังแวร์ซายค่ะ
ที่ตรงนี้นับว่าอยู่ห่างจากพระราชวังแวร์ซายพอสมควรค่ะ  ต้องเดินไกลหน่อยนึง  แต่ก็คุ้มค่าที่ได้ชมค่ะ


ถ้าเพื่อนๆอยากเห็นข้างในพระราชวังแวร์ซายก็สามารถคลิ๊กตามลิงค์เพื่อไปชมที่ :
http://www.googleartproject.com/museums/versailles

ลิงค์ดาวน์โหลดแผนที่พระราชวังแวร์ซาย  :
http://en.chateauversailles.fr/templates/versailles/map/pdf/plan_en.pdf

ข้อมูลเพิ่มเติมที่
http://en.wikipedia.org/wiki/Palace_of_Versailles
Wikipedia ของพระราชวังแวร์ซาย ภาคภาษาไทย
http://en.chateauversailles.fr



แผนที่ของพระราชวังแวร์ซาย  :

ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น




ภาพประกอบ
(ดูภาพเพิ่มเติมได้ที่ :  www.facebook.com/pages/jigabellecom/206405999389398)
















ห้องกระจก(Galerie des Glaces หรือ The Hall of Mirrors)
ซึ่งเคยใช้เป็นห้องลงนามในสัญญาสงบศึกระหว่างสัมพันธมิตรกับจักรวรรดิเยอรมัน    ในสงครามโลกครั้งที่ 1  และใช้เป็นที่ลงนาม ในเมื่อเยอรมนีบุกตีชนะฝรั่งเศสในสงครามโลกครั้งที่ 2  อีกด้วย


ห้องกระจก(Galerie des Glaces หรือ The Hall of Mirrors)


บริเวณด้านหลังของพระราชวังแวร์ซาย



สวนของพระราชวังแวร์ซายค่ะ





ส่วนของพระตำหนักเล็ก(The Grand Trianon)


พระตำหนักเล็ก(The Grand Trianon)


พระตำหนักเล็ก(The Grand Trianon)



ส่วนพื้นที่ของพระนางมารี อองตัวเนต(Marie-Antoinette's estate)
ที่เป็นเหมือนหมู่บ้านขนาดเล็กในชนบทตามพระประสงค์ของพระนางมารี อองตัวเนต ที่บางครังอยากใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย และหลีกหนีจากความวุ่นวายของพระราชวังแวร์ซาย





พื้นที่ของพระนางมารี อองตัวเนต(Marie-Antoinette's estate)


พื้นที่ของพระนางมารี อองตัวเนต(Marie-Antoinette's estate)
ด้านบนเป็นภาพวาดของพระนางมารี อองตัวเนตค่ะ



ถ้าเพื่อนๆเห็นว่าข้อมูลนี้มีประโยชน์  ขอคอมเม้นเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนหน่อยนะคะ :)
และขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆนะคะ



4 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอขอบคุณที่นำภาพสวยๆ เนื้อหาดีๆมาให้ได้รับชมกัน
สวยงามมากๆ เห็นเเล้ว อยากไปบ้างจัง เคยอ่านหนังสือเรื่อง คำสารภาพของมารีอังตัวเนต กับได้ดูในหนังที่ คริสเทน ดัน เเสดงมา เเละอีกเรื่องนึงเกี่ยวกับคดีสร้อยเพชร ทำให้รู้สึกว่าเเวร์ซายเป็นสถานที่ที่นอกจากจะงดงามมากๆ เเล้วยังมี มนต์ขลังของประวัติอันยาวนานมาตั้งเเต่ยุคสมัย พระเจ้าหลุยซ์ที่ 14 ผู้สร้างมาเรื่อยๆ ทั้งด้านที่ งดงามหรูหรา เเล้วยังมีด้านมืดของการแก่งเเย่งชิงดีชิงเด่นกัน ทำของทำเสน่ห์ใส่กษัตริย์ก็มี ที่น่าหดหู่สยดสยองมากคือช่วงที่มีการปฎิวัติ ล่มล้างระบบ กษัตริย์ มีพระราชวงศ์เสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก ไปตามอ่านหาประวัติของ บรรดาเจ้าหญิงพระองค์ต่างๆซึ่งเป็นพระสหายคนสนิทของมารีอังตัวเนต จากในวิกิพีเดีย จึงได้ทราบว่า หลายพระองค์ในยุคสุดท้าย สิ้นพระชนอย่างน่าสยดสยองที่สุด

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณความเห็นข้างบนที่มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ :)

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ผมไปทำภารกิจที่ประเทศเบลเยี่ยมระหว่างวันที่ 21เมษายน-18พฤษภาคม 2555 จึงไปเที่ยวที่เนเธอแลนด์และฝรั่งเศส ไปหอไอเฟล พระราชวังแวร์ซายส์ฯลฯ. ก็สวยงามอย่างที่ท่านเผยแพร่ เพราะสมัยเรียนหนังสือก็เรียนรู้จากหนังสือ/ครูบอก พอไปเห็นด้วยตัวเองรู้สึกทึ่งมากเพราะใช้เวลาก่อสร้างกว่า 30 ปีขอให้ท่านเผยแพร่สิ่งต่างๆเหล่านี้ให้สาธารณะชนได้ทราบถึงประวัติความเป็นมาของพระราชวังแวร์ซายส์และสถานที่อื่นๆอีกน่าจะเกิดประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง ขอบคุณในเจตนารมย์ที่ดีของท่านไว้ ณ โอกาสนี้

Unknown กล่าวว่า...

ขอบคุณทุกๆความเห็นนะคะ เป็นกำลังใจให้เรามากจริงๆค่ะ
สำหรับความเห็นด้านบน ตอนที่เราจะไปเที่ยว ตอนนั้นส่วนมากมีแต่ประวัติเป็นภาษาอังกฤษค่ะ เราเลยคิด ลองแปลแล้วบวกประสบการณที่ไปมาเขียนให้คนอื่นอ่านดู

เราจะดีใจมากๆถ้าบทความนี้มีประโยชน์ต่อทุกๆท่านที่เข้ามาชมค่ะ :)

แสดงความคิดเห็น