เท้าความเมื่อปี พ.ศ.2548 ตอนนั้นที่เจ้าของบล็อกจะต้องเลือกว่าจะเรียนมหาลัยใหน
ตากับยายเค้าต้องการให้เจ้าของบล็อกเป็นพยาบาลเพื่อจะได้อยู่ใกล้ๆบ้าน แถมเจ็บไข้ก็ดูแลท่านได้ และสำหรับคนสมัยก่อนเค้าคิดว่าอาชีพรับราชการเป็นอาชีพที่มีเกียรติ
เจ้าของบล็อกก็เลยทำตามบัญชา เอาผลเอ็นท์ไปยื่นที่สารธารณสุขและเข้าฝึกงานพร้อมกับเพื่อนในรุ่นเพื่อรับการคัดเลือกจากทางพยาบาลค่ะ(อย่าเพิ่งคิดว่าท่านตาท่านยายของเราเป็นเผด็จการนะคะ เพียงแต่ตอนนั้นเรายังไม่แน่ใจว่าอยากเป็น อยากเรียนอะไรกันแน่ และอารมร์ตอนนั้นอยากอยู่ใกล้บ้าน กลัวคิดถึงตากับยายก็เลยเลือกทำตามที่ท่านแนะนำ)
หลังจากนั้นเราก็ไปฝึกงานที่โรงพยาบาลทุกวันเป็นเวลา 1 เดือน(ทั้งๆที่กลัวเข็มกับกลัวเลือดที่สุด)
เมื่อฝึกไปนานๆก็เริ่มรู้ว่าเราคงเป็นพยาบาลไม่ได้แน่ แต่สุดท้ายผลปรากฏว่าเราติดพยาบาลค่ะ เพื่อนๆก็ดีใจกับเรา(แต่เราแอบเครียดเพราะกะว่าไม่ติด จะได้บอกตากับยายง่ายหน่อย)
ตอนนั้นเหลือแค่รอสอบสัมภาษณ์เราก็จะเข้าไปเรียนโรงเรียนพยาบาล
ช่างที่รอเราก็ไปทำงานที่เชียงใหม่ ช่วงนั้นก็คิดว่าตูจะทำไงดีว้าาา ไม่อยากเป็นพยาบาลเลย เวลาก็ใกล้เข้ามาทุกที ตอนสุดท้ายก็เลยตัดสินใจว่าจะบอกตากับยายไปตรงๆว่า "หนูเป็นพยาบาลไม่ได้ หนูกลัวเลือดฮะ(ทำหน้าเหงาหงอยด้วย)" ตอนนั้นเหลือแต่ภาคเสาร์อาทิตย์ที่ยังเปิดรับสมัคร
เราเลยบอกตายายว่าเราจะสละสิทธ์การเป็นนักศึกษาพยาบาล และจะลงเรียนภาคเสาร์อาทิตย์ และทำงานไปด้วย แถมที่เรียนก็อยู่แค่เชียงใหม่ ตากับยายมาเที่ยวหาหนูได้สบาย ท่านเลยยอม
... นี่เลยเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนภาคเสาร์ - อาทิตย์
ตอนที่สมัครก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเรียนอะไรดี คณิตก็คงไม่ไหม(เราจบสายวิทย์-คณิตซึ่งมันเป็นอะไรที่หนักพอควร และบอกตัวเองมาตลอดว่าจบไปแล้วจะไม่ยุ่งกับคณิตศาสตร์อีก ฮือๆๆ)
สรุปเลยเลือกเรียน ภาษาอังกฤษธุรกิจ แล้วลงสอบเข้า ผลก็ผ่าน ดีใจมาก เรามีที่เรียนแล้วว้อยย
เข้าปฐมนิเทศน์เพื่อนในห้องมีเป็น 70 คน คึกคักมาก อาจารย์ที่ปรึกษาท่านเป็นผู้หญิงโสดและอายุ 50 กว่าๆ เป็นอะไรที่น่ารักมากๆ มองท่านที่ไรก็นึกถึงยายเราตลอด เฮะๆ
ช่วงไปเรียนแล้วก็หางานทำไปด้วย แล้วตอนนั้นภาคเสาร์-อาทิตย์ยังไม่เงินให้กู้เรียน(มีให้กู้แค่เฉพาะนักศึกษาภาคปกติ) แถมค่าเทอมก็แพงกว่าภาคปกติด้วยเพราะเค้าต้องจ้างอาจารย์มาสอนพิเศษ เราทำงานไปด้วย ช่วงแรกๆทำที่ร้านอาหารรู้สึกเงินไม่ค่อยพอ เพื่อนแนะนำให้ลองไปทำที่ผับ เลยลองไปทำ ทิปดีกว่าจริงแต่นึกภาพว่าตอนไปเรียนเนี่ยแพนด้าเลย ผับเลิกตีสอง เข้าเรียนแปดโมงเช้า ช่วงนั้นเป็นอะไรที่โทรมมาก เรียนก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง บางคาบก็ไม่ได้ไปเรียนเพราะตื่นไม่ทัน(ไม่ดีเลยนะคะ) เกรดช่วงนั้นออกมาไม่สวยเลยค่ะ ก็เลยต้องมาคิดว่าทำงานไรดี ที่ได้เงินพออยู่และเรียนรู้เรื่อง นี่เลยเป็นจุดเริ่มต้นการทำอีคอมเมอร์ของเราค่ะ(เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังทีหลังเนาะ)
เรียนภาคเสาร์ - อาทิตย์ดีอย่างที่ไม่มีการรับนัอง(เราบอกตรงๆว่าเราไม่ค่อยชอบระบบรับน้องเพราะข่าวจากหลายๆที่ที่การรับน้องเอารุ่นพี่เป็นใหญ่ไปหมด ไม่ก็เกิดความรุนแรง ต้องตื่นเช้า เลิกค่ำ ฯลฯ ทำให้เรากลายเป็นไม่ชอบไปเลย แต่ไม่ได้หมายความว่าการรับน้องไม่ดีนะคะ หลายที่ก็ทำได้ดีเช่นที่มช.เป็นต้น)
แถมทางมหาลัยไม่ได้กำหนดว่าต้องใส่ชุดนักศึกษาไปเรียน(แต่ชุดต้องเรียบร้อย)
เพื่อนๆร่วมห้องเรียนในภาคเสาร์ - อาทิตย์ส่วนมากจะเป็นคนที่ทำงานแล้วหรือผู้ใหญ่กว่า เราชอบคุยกับพวกเค้าเพราะสิ่งที่เรายังไม่มีคือประสบการณ์ พวกเค้าก็จะเล่าว่าทำงานแล้วเป็นไง เจอลูกค้ายังไงบ้าง ฟังแล้วมันส์ดีค่ะ พี่คนนึงเค้าเป็นไกด์ก็เล่าให้ฟังตั้งแต่ตอนรุ่งเรืองจนถึงจุดเปลี่ยนของชีวิต
อีกคนทำงานกับฝรั่งก็เล่าให้ฟังว่าเจ้านายฝรั่งเป็นไงบ้าง เราก็เก็บข้อมูล เผื่อได้ทำงานกับฝรั่ง
มีคุณลุงคนนึง อายุน่าจะหกสิบกว่า เค้ามาเรียน ดูตั้งใจมาก และถามคุณครูตลอดเวลาสงสัย เห็นแล้วน่ารักดีค่ะ แต่เสียดายไม่ได้ทราบข้อมูลเค้าเยอะ เพราะคุณลุงอยู่คนละคณะกับเรา
และมีพี่คนนึงเค้าฝึกทำขนม เค้าก็เอาขนมมาให้พวกเราชิมเกือบทุกวันที่ไปเรียน...น่ารักมากๆ พี่คนนี้อยู่ลำพูนและจะนั่งรถมาที่เชียงใหม่ทุกวัน ขยันและนิสัยดีมากๆเลยค่ะ(จันทร์-ศุกร์ มาสอนที่เชียงใหม่ และ เสาร์-อาทิตย์ก็มาเรียนที่เชียงใหม่)
มาถึงปีสาม นักเรียนในห้องจาก 72 คน ก็เหลือแค่ 16 พวกรุ่นพี่ก็ให้กำลังใจว่าอดทนนะ เหลือแค่ปีเดียวเอง ภาษาอังกฤษธุรกิจไม่ได้ยากมากเพียงแต่ต้องขยันและสนใจ ถ้าเราขีเกียจเปิดดิกชันนารีมันก็ไม่ได้ แถมพวก tense, grammar อีกที่ต้องทำความเข้าใจ ส่วนมากนักศึกษาภาคเสาร์-อาทิตย์มีงานที่ต้องทำอยู่แล้ว(เหลื่อยและหนักจากงานมาแล้ว) หลายคนก็เลยเลือกดร็อปบ้าง ย้ายสาขาบ้าง ลาออกไปเลยบ้าง เราก็เกือบย้ายสาขามาแล้วค่ะ แต่เปลี่ยนใจเพราะเพื่อนรุ่นพี่เค้าก็ให้กำลังใจดีมาก(ตอนจบมาก็คุยกับเพื่อนว่าเราผ่านมาได้ไงเนี่ย)
เผลอแป็บเดียวเราก็อยู่ปีสี่ เหลือเวลาอีกไม่นานเราก็จะจบแล้วเอาปริญญามาให้ตากับยายแล้ว แต่โชคร้ายที่ยายเรามาเสียก่อน เป็นอะไรที่เราช็อคมาก ตอนนั้นเราก็ไปบวชชีแล้วกลับมาเรียนใหม่ ตาก็เป็นกำลังใจให้เราดีมาก
ตอนนี้จบมาแล้ว ดีใจมากและขอเป็นกำลังใจให้พี่ๆ น้องๆทุกคนที่กำลังศึกษาอยู่นะคะ
ไม่มีคำว่าสายไปสำหรับการเรียนรู้ค่ะ ;)
เอาล่ะ มาสรุปข้อดีข้อด้อยของการเรียนภาคเสาร์อาทิตย์กันนะคะ
ข้อดี
- มีเวลาทำงานประจำหรืองานพิเศษ ทำให้มีประสบการณ์นอกเหนือจากห้องเรียน
- ถึงไม่มีการรับน้อง(ในบางมหาลัย) แต่คุณก็ยังได้รู้สึกได้ถึงน้ำใจของรุ่นพี่ค่ะ
- ไม่จำเป็นต้องใส่ชุดนักศึกษาไปเรียน(แต่ต้องแต่งกายสุภาพ)
- ได้เพื่อนๆ รุ่นพี่ที่เป็นผู้ใหญ่ มีประสบการณ์ และบางครั้งเค้าก็ให้คำแนะนำที่ดีได้ในหลายๆเรื่อง
- ส่วนมากมักจะเงียบสงบกว่าภาคปกติ(ตอนนั้นไปติดต่อมหาลัยในวันปกติ นักศึกษาเยอะมากกก)
ข้อด้อย
- ค่าเทอมมักจะแพงกว่าภาคปกติ
- ด้วยความที่ไม่ได้ไปมหาลัยทุกวัน แค่อาทิตย์ละสองวัน ทำให้อาจขี้เกียจไปเรียนได้
- ไม่ค่อยมีอาหารตา อ่ะ...ล้ออเล่น
18 ความคิดเห็น:
โห้ พี่เก่งจังเรยคะ นู๋ก้เรียน เสาร์-อาทิตย์คะ แต่เพิ่งเข้าเอง แต่เรียนที่ภูเก็ต แต่ตอนนี้อยากไปเรียน ที่เชียงใหม่ ภาคเสาร์-อาทิตย์ เหมือนกันคะ อยากรู้ว่า เค้าเปิดรับคณะอะไรบ้างคะ 4ปีนะคะ ขอบคุณมากๆคะ
คร่าวๆนะคะ ก็จะมีคณะวิขา การพัฒนาชุมชน, นิติศาสตร์, บริหารรัฐกิจ, จิตวิทยาและการแนะแนว, จิตวิทยา แขนงวิชาจิตวิทยาการแนะแนว, การศึกษาปฐมวัย, เทคโนโลยีอุตสาหกรรมก่อสร้าง , นิเทศศาสตร์ แขนงวิชาการประชาสัมพันธ์, ภาษาอังกฤษธุรกิจ
เทคโนโลยีสารสนเทศ, วิจิตรศิลป์และประยุกต์ศิลป์ แขนงวิชาออก, สาธารณสุขศาสตร์, การบัญชี, การบริหารทรัพยากรมนุษย์, คอมพิวเตอร์ธุรกิจ, การจัดการ, การตลาด
ติดต่อที่มหาลัยโดยตรงได้ที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
เบอร์โทร : 053 - 885555
อยากทราบว่าเรียนเสาร์อาทิตย์มีคนเรียนเยอะไหมครับ
และอยากให้พี่ๆช่วแนะนำแนวทางในการเรียนเสาร์อาทิตย์
ว่าควรแบ่งเวลายังไงครับ
พี่ค่ะ
ภาคเสาร์-อาทิตย์นี่เค้าต้องสอบเข้าหรือเปล่าค่ะ
คนเรียนภาคเสาร์ อาทิตย์ พี่ว่ามีน้อยกว่าภาคจันทร์_ศุกร์นะ
สำหรับพี่ พี่ชอบ รู้สึกคนไม่เยอะแล้วเงียบสงบกว่า(ความเห็นส่วนตัว)
และที่มหาลัยพี่เค้าต้องสอบเข้าด้วยค่ะ
นอกจาก มช.มีเรียนเสาร์อาทิตย์แร้ว ใน กทม พี่พอจะรุม่ะค่ะว่ามีที่ไหนบ้าง คณะนิเทศด้วยอ่ะค่ะ
พี่คิดว่าแทบจะทุกมหาวิทยาลัยที่มีภาคเสาร์ อาทิตย์ค่ะ
เวลาพูดถึงนิเทศน์แล้วนึกถึงจุฬา ว่าแต่ว่าหนูอยากเรียนมหาลัยอะไรคะ
พี่ค่ะ ภาค ภาคเสาร์-อาทิตย์ การพัฒนาชุมชน สอบยากไหม๊ค่ะ เข้ายากไหม๊ค่ะ คือตัวเองไม่ได้เรียน มาหลายปีแล้วค่ะ และหัวไม่ดีด้วย (โง่ค่ะ) แต่มีโอกาสเลยอยากเรียนค่ะ
การพัฒนาชุมชน น่าจะไม่ยากนะคะ ที่เห็นเพื่อนๆรู้สึกเค้าจะชิลๆกว่าพวกเรียนภาษา หรือกฏหมายอีก
หัวไม่ดีก็ต้องขยันกว่าคนหัวดีอีกเท่าตัว รับรองจบแน่จ้ะ
เพราะการเรียนมหาลัย คนเก่งไม่กลัว กลัวคนขยันเนี่ยแหละ เพื่อนพี่หลายคนที่เรียนเก่งๆ หัวดีๆ แต่โดนรีไทร์เพราะชะล่าใจในความหัวดีของตัวเอง(ไม่ค่อยเข้าเรียน หวังเอาคะแนนจากการสอบ)
ยังไงก็สู้ๆนะคะ :)
พี่ค่ะนู๋ก็อยากเรียน เสาร์ อาทิตย์ค่ะ มันยากมากมั๊ยค่ะ
ขออีเมล์ หรือ facebook ของพี่ได้ไหม๊ค่ะ คือหนูอยากปรึกษาพี่ค่ะ หลายๆอย่างค่ะ หนูขาดคนชี้แนะค่ะ
เฟสบุคของพี่นะคะ
https://www.facebook.com/jigabelle?ref=hl
สู้ๆค่ะน้อง
สวัสดีค่ะพี่ คือตอนนี้นู๋ก้อกำลังจะขึ้น มหาลัย แต่คือว่า นู๋อ่ะ มีครอบครัวแล้ว คุณแม่อยากให้เรียนภาคปกติ แต่นู๋ก็อยากเป็นแม่ที่มีเวลาให้ตัวเล็กมากๆๆๆๆ กลัวลูกขาดควมอบอุ่นอ่ะค่ะพี่ ก็เลยว่าจะลงเรียนเสาร์ อาทิตร์ แต่อยากทราบว่า ถ้าเราเรียน เสาร์ อาทิตย์เนี่ย สามารถที่จะสอบบรรจุเป็นราชการได้ไหม่ค่ะ
ตอบคำถามด้านบน :
สามารถที่จะสอบบรรจุเป็นราชการได้ค่ะ
ยกเว้นครูที่เราต้องเลือกเรียนคณะครุศาสตร์ 5 ปี ซึ่งบางมหาลัยในภาค เสาร์ อาทิตย์ก็ไม่ได้มีเปิดสอน
สู้ๆนะคะ
ถ้าเราที่นี้แร้วกลัวจะไม่เพื่อนหรือรุ่นพี่มาสอนมาแนะนพสถานที่เรียนนะค่ะ
พี่ค่ะพอดีว่าหนูเกิดตั้งท้องแบบไม่รู้ตัวคือประจำ้ดือนมาตามปกติแต่ท้องสามารถไป้รียนได้ไหมค่ะ ภาค เสาร์ อาทิตย์นะค่ะ
พี่คะนู๋อยากทราบว่าเรามีงานประจำอยู่แล้วเราจะกู้เรียนได้หรือเปล่าคะเรียนภาคเสาร์-อาทิตย์ อ่ะค่ะแล้วทำงานจันทร์ถึงเสาร์เราจะเรียนยังงัยอ่ะคะหยุดแค่วันอาทิตย์เองรบกวนตอบด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
พี่ค่ะคณะการศึกษาปฐมวัยปี 57 เปิดรับสมัครไหมค่ะ แล้วเขาจะต่อเนื่องให้ไหม เพราะน้องเรียนวิทยาชุมชน มาแล้วค่ะอยากถามตอนนี้ยังไม่มีที่เรียนต่อค่ะ
แสดงความคิดเห็น