พูดภาษาอังกฤษให้ดี แนวจิตวิทยา ตอนที่ 2 : อุปกรณ์และขั้นตอนในการเรียน(ด้วยตัวเอง)

ตอนที่ 2 : อุปกรณ์และขั้นตอนในการเรียน(ด้วยตัวเอง)

เนื้อหาทั้งหมดนี้เรานำมาจากบทความของคุณ คนบ้านเดียวกัน บนเว็บ http://www.pantip.com
ต้องขอขอบคุณคุณ "คนบ้านเดียวกัน" จริงๆที่นำบทความดีๆแบบนี้มาแบ่งปันค่ะ

หากท่านผู้อ่านเลือกที่จะพูดให้เป็นธรรมชาติที่สุด แล้วอ่านต่อไปได้เลยครับ อุปกรณ์ในการเรียนวิธีผม
1. ซื้อ Longman Dictionary ที่มี CD แถมมาให้ สำหรับใช้ในคอม สำหรับ CD ตัวนี้จะมีการออกเสียงให้ทั้งที่เป็นแบบ อเมริกันและอังกฤษ ใครอยากได้สำเนียงไหนเืลือกฟังได้ตามใจชอบเลยครับ

2. เข้าใจวัฒนธรรมของเด็กประถมฝรั่งให้ได้ เนื่องจากเราอยู่เมืองไทย สิ่งแวดล้อมก็มีแต่ภาษาำไทยๆๆ ตลอดเวลาไม่ใช่ว่าจะต้องหาคนพูดอังกฤษด้วยน่ะครับ แต่ตอนนี้ท่านผู้อ่านเป็นเด็กฝรั่งตัวเล็กๆ เพิ่งเข้า Grade 1 ที่นี่สิ่งที่จะต้องทำคือ เข้าใจวัฒนธรรมของเด็กประถมฝรั่งให้ได้ ผมใช้แง่คิดในเชิงจิตวิทยาในการเรียนภาษา เหตุผลนั้นคือ เราต้องการใช้ภาษาอังกฤษจากมุมมองของเจ้าของภาษาเท่านั้น การเข้าใจจิตวิทยาการใช้ภาษาจะทำให้เราเข้าในวัฒนธรรมของ เจ้าของภาษาได้ดีขึ้น และทำให้การเข้าใจดีมากขึ้นตามมา 


ที่นี่ เนื่องจากเราเองก็ไม่ได้เรียนโรงเรียนฝรั่งนี่นา แล้วจะทำอย่างไรเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ในลักษณะที่คล้ายคลึงเด็ก ป 1 ฝรั่งมากที่สุด ผมแนะนำให้หาซือหนังสือ Diary of a Wimpy Kid น่ะครับมาอ่าน ลงทุนหน่อย เล่มล่ะ 200 กว่าๆ เกี่ยวชีวิตประจำวันของเด็กนักเรียนคนหนึ่ง ซึ่งเนื้อหา เกี่ยกับโรงเรียน การบ้าน เพื่อน พ่อแม่ ครูอาจารย์ เป็นบันทึกประจำวันน่ะครับ ภาษาที่ใช้ เป็นภาษาพูด ที่เด็กประถมฝรั่งคุยกัน ผมเคยเห็นเด็กโรงเรียนนานาชาติเล็กๆ ซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่านบนรถไฟฟ้า 

หลังจากที่ซื้อหนังสือมาแล้ว ผมแนะนำให้ใช้ปากกา hilight หรือปากกาสี ขีดเขียนลงไปได้เลยเต็มที่ แล้วเริ่มอ่านครับ แต่สิ่งที่ต้องสังเกต เป็นพิเศษคือเรื่อง tense โครงสร้างประโยค   ผมแนะนำให้อ่านเอาคำศัพท์ หรือโครงร้างประโยค รอบแรกก่อน เอาบทแรกให้จบ แล้วจึงอ่านรอบที่สองให้ฉลุยจนเข้าใจอีกครั้ง หรือ จะอ่านทีละหน้าก็ได้ ผมอ่านทีละหน้าแล้วหยุดครับ  รอสักพักกลับมาอ่านใหม่อีกรอบ แล้วผมก็พูดออกมาดังๆเวลาอ่าน เนื่องจากหนังสือเล่มนี้เป็นบันทึกประจำวัน น้ำเสียงของการเล่าเรื่องมักจะมีให้เห็นอยู่ตลอดทุกบันทัด อ่านออกเสียง คำไหนไม่ได้เปิด พจนานุกรมไปเรยครับ อยากออกเสียง เปิด Longman ควบคู่ไปด้วยเลย และที่สำคัญที่สุด ที่ผมเลือกหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา เพราะเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวเราทีุ่สุดที่เราพบเห็นตลอดเวลาในชีิวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการไปเรียนหนังสือ การพูดคุยกับเพื่อน หรือ การรับประทานอาหาร หนังสือเล่มนี้ล้วนแต่มีการใช้ประโยคคำพูด กับสิ่งที่ท่านผู้อ่านประสบอยู่แล้วในแต่ละวันหรืออาจจะเคยมาก่อนในอดีต ด้วยเหตุผลนี้ จะทำให้การเรียนภาษาอังกฤษเป็นเรื่องที่ท่านผู้อ่านสามารถนำมาเปรียบเทียบบกับตัวเองได้มากขึ้น

เวลาอ่านอย่าลืมพูดออกมาด้วยน่ะครับ และที่สำคัญ ห้ามเด็ดขาด ห้าม ออกเสียงเอง คิดการสะกดคำขึ้นมาเอง คำไหนไม่แน่ใจ เปิด Longman ทันทีครับ สำหรับท่านผู้อ่านที่เป็นคนพูด เร็วและรัว เหมือนผม เวลาพูดภาษาอังกฤษหรืออกเสียงให้พูดช้าๆๆๆๆๆๆๆๆ เพราะภาษาไทยกับอังกฤษออกเสียงคำต่างกัน จำไว้นะครับท่านผู้อ่านเป็นเด็ก Grade 1 เพราะฉะนั้นท่านผู้อ่านจะต้องพูดภาษาอังกฤษให้เหมือนเด็กเสียก่อน คือ พูดช้าๆ พูดซ้ำๆ ตลอดเวลา หากท่านสังเกต เด็กเล็กๆ พวกเขาเหล่านี้มักจะถามคำถามผู้ใหญ่ด้วยคำเดิมๆ รูปแบบเดิมๆ พูด แบบ เดิมๆ แต่เชื่อไหมครับว่า เพราะ การพูดซ้ำไปมาทำให้พื้นฐานภาษาของพวกเขาเด็กๆเหล่านี้แข็งพอที่จะ เรียนรู้คำใหม่ๆ ประโยคใหม่ๆ โดยที่ประโยคเดิมๆมันซึมเข้าไปในสมองไปแล้ว

เนื้อหาทั้งหมดของบทความ พูดภาษาอังกฤษให้ดี แนวจิตวิทยา
ตอนที่ 1 :    ให้ทุกคนคิดว่าตัวเองเป็นเด็กฝรั่งที่กำลังเริ่มหัดพูด หัดอ่าน หัดเขียน
ตอนที่ 2 :    อุปกรณ์และขั้นตอนในการเรียน(ด้วยตัวเอง)
ตอนที่ 3 :    การพูดอ่านและเขียนมีหลักการเดียวกัน 
ตอนที่ 4 :    การหาวัตถุดิบ(หนังสือ อินเตอร์เน็ต คน และแรงบันดาลใจ)
ตอนที่ 5 :    การหาวัตถุดิบ หรือ Input(2)
ตอนที่ 6 :    รู้จักการเลียนแบบน้ำเสียง แล้วนำไปใช้
ตอนที่ 7 :    สิ่งที่ควรรู้ในการเรียนภาษาอังกฤษ
ตอนที่ 8 :    มาต่อที่เรื่องของวัตถุดิบ หรือ Input(3)
ตอนที่ 9 :    ยังคงอยู่ที่เรื่องของวัตถุดิบ หรือ Input(4)
ตอนที่ 10 :   ประสบการณ์การทดลองส่วนตัวในการเรียนภาษาอังกฤษ


ติดตามตอนต่อไป คลิ๊กที่นี่ค่ะ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น