พูดภาษาอังกฤษให้ดี แนวจิตวิทยา ตอนที่ 6 : รู้จักการเลียนแบบน้ำเสียง แล้วนำไปใช้

ตอนที่ 6 : รู้จักการเลียนแบบน้ำเสียง แล้วนำไปใช้
เนื้อหาทั้งหมดนี้เรานำมาจากบทความของคุณ คนบ้านเดียวกัน บนเว็บ   pantip.com
ลิงค์บทความ :   http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K10586407/K10586407.html
ต้องขอขอบคุณคุณ "คนบ้านเดียวกัน" จริงๆที่นำบทความดีๆแบบนี้มาแบ่งปันค่ะ

ต่อน่ะครับ
จากที่ผมได้โพสไว้ในข้อความก่อนหน้านี้ ผมลืมเน้นไปว่า ท่านผู้อ่านจะต้องรู้จักการเลียนแบบน้ำเสียง การใช้คำพูดของผู้พูดที่ผู้อ่านได้ยินมา แล้วนำไปใช้ และต่อยอดจากคุณ Pilkyo_Oilly น่ะครับ ใครก็ตามที่ไม่ได้มีโอกาสอยู่สภาพแวดล้อมที่มีคนพูดภาษาอังกฤษด้วยนั้น ผมแนะนำให้ไปลงเรียนตามสถาบันภาษา เพื่อเป็นทางระบาย (output) จากสิ่งที่ท่านผู้อ่านได้ศึกษามา เพื่อให้ได้เกิดการโต้ตอบเป็นภาษาอังกฤษในชิวิตจริง

ตอนเด็กผมเคยลงเรียน AUA ตอนนั้นจำได้ว่าฟังอาจารย์ไม่รู้เรื่องเลย ได้บ้างไม่ได้บ้าง จนพอมาคิดสูตรเรียนเองเอาดีกว่า บวกกับความทะเยอทะยาน การใช้ภาษาผมเลยพัฒนาเร็วมากขึ้น พอตอนอยู่มหาลัยปี 1 หรือปี 2 ถ้าจำไม่ผิดไปลงเรียน AUA อีกครั้งหลังจากครั้งสุดท้ายที่ Level 3 ตอน มอ สอง ไปสอบใหม่ได้ Level 12 ถ้าผมจำไม่ผิด Level ก่อนสูงที่สุดครับ ผมแย่งคนในห้องพูดจนอาจารย์ต้องห้าม (จริงๆไม่ควรทำอย่างยิ่ง แต่ตอนนั้น Input มันเต็มไปหมดไม่มี Output ถ้าไม่ได้ใช้เดี๋ยวลืมได้ง่ายๆครับ) เรียนไปได้ เทอม เดียวเลิกเลย

แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาจะไปลงเรียนภาษา ผมยังพอมีหนทางอยู่ครับ แต่ต้องอาศัยความขยันน่ะครับ หลังจากที่ผมตัดสินใจไม่เรียนต่อที่ AUA แล้วผมเลยได้ไอเดียใหม่ หลังจากที่หาสิ่งนี้ในอินเตอร์เน็ต ในที่สุดผมก็เจอบทละครของอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น ตลก หรือ ซีรีย์ หรือละครทีวี วิทยุมีหมด บทพูดเหล่านี้ล้วนเป็นบทสนทนาที่ใกล้เคียง การใช้ภาษาของเจ้าของภาษาสถานการณ์จริงมากที่สุด และเป็นบทพูดล้วนๆ ผมดีใจมากที่หาจนเจอซึ่งในตอนแรกผมไม่คิดว่าจะมีด้วยซ้ำไป หลังจากนั้นผมก็ปริ้นมาอ่านอย่างไม่บันยะบันยัง (ขออภัยถ้าสะกดคำนี้ผิดน่ะครับ) กด ดิ้ก ขีดเส้นใต้ อ่านทวนแล้วทวนอีกจนจำเข้าไปในหัว

สำหรับท่านผู้อ่านคนใดที่สนใจอยากได้บทละครของฝรั่ง สามารถเข้าไปในเวปนี้ได้น่ะครับ www.simplyscripts.com แต่สำหรับผู้ที่ต้องการเนื้อหาอ่านง่ายๆ ผมได้เลือกบทละครวิทยุมา เหตุผลน่ะครับ เพราะเป็นบทละครพูดไม่ยืดเยื้อ การใช้คำพูดมักจะมีใจความครบถ้วน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนการพูดภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพทิ้งอีเมลล์ไว้ในนี้ น่ะครับผมจะส่ง file word ไปให้ มีความยาว 400 หน้า เป็นละครวิทยุ น้ำเน่าได้ใจ ผมใช้วิธีศึกษา แสลง ภาษาชาวบ้าน หรือสำนวนในสถานการณ์ต่างๆ จากบทละครเหล่านี้ทั้งสิ้น ซึ่ง AUA หรือจะ Wall Street หรือ Boston Bright ไม่มีให้แน่นอนครับ


ที่นี่ มาต่อที่ลักษณะนิสัยอันที่สอง ของเด็กน่ะครับ อันแรกนั้นเป็นการฝึกถามเป็นภาษาอังกฤษ อันที่สองเป็นลักษณะนิสัยการเล่าเรื่องของเด็กๆ อันนี้เป็นสิ่งที่ผมอยากให้ท่านผู้อ่านฝึกพูด ถึงแม้ว่าจะไม่มีอาจารย์หรือเพื่อนเจ้าของภาษามาคอยแก้คำพูดให้ แต่ท่านผู้อ่านสามารถเลียนแบบจาก บุคคลต่างๆ ใน Youtube ได้น่ะครับ

เวลาเด็กๆเล่าเรื่อง เด็กมักจะพูดง่ายๆ แต่สามารถเล่าได้เป็นฉากๆ จากในตอนที่แล้วที่ผมให้ท่านผู้อ่านดูคลิป สิ่งที่ท่านผู้อ่านจะต้องหมั่นสังเกตและบันทึกตลอดเวลา ซึ่งนอกจากจะใช้วิธีการเลียนแบบแล้ว ****ท่านผู้อ่านต้องศึกษาเรื่องโครงสร้างประโยค ฟังบ่อยๆ จนเราสามารถพูดกับเองได้ว่า “อ๋อ เขาพูดกันอย่างนี้เอง”****** ในการเล่าเรื่องนั้น เรามักจะพูดถึงบุคคลที่สาม บ่อยครั้ง ด้วยวิธีดังกล่าวนี้ผมมีคลิปจะให้ท่านผู้อ่านดู คลิปนี้ได้เลยครับ

http://www.youtube.com/watch?v=hQx__B1cr0U

ในตอนถัดไปผมจะเข้าเรื่องวิชาการน่ะครับ


เนื้อหาทั้งหมดของบทความ พูดภาษาอังกฤษให้ดี แนวจิตวิทยา
ตอนที่ 1 :    ให้ทุกคนคิดว่าตัวเองเป็นเด็กฝรั่งที่กำลังเริ่มหัดพูด หัดอ่าน หัดเขียน
ตอนที่ 2 :    อุปกรณ์และขั้นตอนในการเรียน(ด้วยตัวเอง)
ตอนที่ 3 :    การพูดอ่านและเขียนมีหลักการเดียวกัน 
ตอนที่ 4 :    การหาวัตถุดิบ(หนังสือ อินเตอร์เน็ต คน และแรงบันดาลใจ)
ตอนที่ 5 :    การหาวัตถุดิบ หรือ Input(2)
ตอนที่ 6 :    รู้จักการเลียนแบบน้ำเสียง แล้วนำไปใช้
ตอนที่ 7 :    สิ่งที่ควรรู้ในการเรียนภาษาอังกฤษ
ตอนที่ 8 :    มาต่อที่เรื่องของวัตถุดิบ หรือ Input(3)
ตอนที่ 9 :    ยังคงอยู่ที่เรื่องของวัตถุดิบ หรือ Input(4)
ตอนที่ 10 :  ประสบการณ์การทดลองส่วนตัวในการเรียนภาษาอังกฤษ



ติดตามตอนต่อไป คลิ๊กที่นี่ค่ะ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น