พูดภาษาอังกฤษให้ดี แนวจิตวิทยา ตอนที่ 7 : สิ่งที่ควรรู้ในการเรียนภาษาอังกฤษ

ตอนที่ 7 :     สิ่งที่ควรรู้ในการเรียนภาษาอังกฤษ
เนื้อหาทั้งหมดนี้เรานำมาจากบทความของคุณ คนบ้านเดียวกัน บนเว็บ  pantip.com
ลิงค์บทความ :   http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K10586407/K10586407.html
ต้องขอขอบคุณคุณ "คนบ้านเดียวกัน" จริงๆที่นำบทความดีๆแบบนี้มาแบ่งปันค่ะ

สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านทุกท่าน ผมขอภัยด้วยที่หายไปวันสองวัน เพราะมีภาระกิจที่จะต้องทำอยู่หลายอย่างด้วยกัน และก็ขอขอบคุณทุกๆคนเลยน่ะครับที่ช่วยกันโหวตเพื่อไม่ให้กระทู้หล่น เพื่อที่ท่านผู้อ่านท่านอื่นๆจะได้กระทู้ของผมได้ง่ายๆ จะได้แบ่งปันประสบการณ์ในการเรียนภาษาอังกฤษด้วยกัน ส่วนเรื่อง Youtube ที่ผมจะพูดภาษาอังกฤษให้ฟังนั้นขอเวลาอีกหน่อยน่ะครับ ขอหาสถานที่ถ่ายทำงามๆ ก่อน


ผมได้กล่าวในครั้งที่แล้วว่าผมจะพูดเป็นภาษาอังกฤษให้ฟังนั้นต้องรอหน่อยน่ะครับ เดี๋ยวจะนำขึ้นมาโพสให้ท่านผู้อ่านได้เห็นกันครับ และสำหรับใน ตอนต่อไปนี้ผมจะกล่าวย้อน ไปถึงตอนแรกๆของก่อนการเริ่มเรียนภาษาอังกฤษด้วยวิธีที่ผมได้กล่าวมาแล้วในตอนต้น
ผมขอย้ำน่ะครับว่าท่านผู้อ่านจะต้องมีความเข้าใจในไวยากรณ์พื้นฐานภาษาอังกฤษได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ไม่ต้องถึงขนาดจะต้องให้เก่งถึงขั้น ขนาดทำข้อสอบ TOEFL ได้ในตอนนี้น่ะครับ ที่สำคัญน่ะครับ เรื่องที่ท่านผู้อ่านจะต้องเข้าใจก็คือ 
(1.)  เรื่อง Tense
(2.)  เรื่องของ การใช้ ประธานกับ คำเหล่านี้ is/am/are/have/has/do/does กับคำกิริยาหรือ กรรม 
หรืออะไรก็แล้วแต่ เอาแค่เป็นพื้นๆก่อนน่ะครับ แต่เราสามารถจับคู่ประธานได้กับคำเหล่านี้ ผมถือว่าพร้อมสำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษด้วยวิธีธรรมชาติแล้วครับ
(3.)  คำศัพท์เห็นอะไรใหม่ๆ เข้ามา จดได้จดลงไปเลยครับ ไม่ได้ถามคุณ Longman หรือจะคุณพี่ Oxford ได้น่ะครับ
(4.)  การเปลี่ยนรูปประโยคกลับไปมา ระหว่าง คำถาม คำตอบ ปฎิเสธเป็นบอกเล่า หรือกลับกัน 
วิธีตามข้อนี้ผมมีหนังสือมาแนะนำ น่ะครับหนังสือหายากนิดนึงส์ ชื่อ "New Road" เขียนโดยอาจารย์ท่านหนึ่งซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการสอนภาษาอังกฤษให้คนพูดเป็น ท่านได้เขียนประโยคตัวอย่างไว้เป็น พันๆ แถม เปลี่ยนประโยค บอกเล่า ให้เป็นคำถาม และปฎิเสธให้ด้วยให้ด้วย หากท่านผู้อ่านคนใดมีหนังสือเล่มดังกล่าวอยู่ในมือ ถึงแม้ว่ารูปเล่มจะไม่โดดเด่นเหมือนหนังสือเรียนภาษาอังกฤษตามสถาบันสอนภาษาทั่วไป ไม่มีสีสัน ไม่มีรูปภาพประกอบมากมาย เหมือน หนังสือสมัยก่อนที่มีแต่ตัวหนังสือ เรียงกันเป็นตับ แต่ที่สำคัญกว่านั้น เนื้อหาประเมินค่ามิได้น่ะครับ ราคาถูกมาเหมาะกับยุคเศรษฐกิจพอเพียง ผมซื้อมาอ่านสามเล่ม แต่หายเกลี้ยง ตามหาอยู่ ผมท่องไปๆมา เพื่อให้การ พูดของผมสามารถกลับไปมาระหว่าง คำถามคำตอบ ปฎิเสธและบอกเล่าได้คล่องขึ้น หากวันไหนผมเจอหนังสือเล่มนี้ จะนำรายละเอียดลงมาเขียนไว้น่ะครับ แต่น่าเสียดายที่หนังสือไม่ได้รับการโปรโมทให้ใช้ในโรงเรียนเท่าที่ควร


ท่านผู้อ่านผู้ใดเป็นเจ้าของช่วยนำรายละเอียดหนังสือมาแบ่งปันเพื่อนๆในกระทู้นี้ด้วยน่ะครับ
4 สิ่งเหล่านี้ท่านผู้อ่านต้องหมั่นซ้อมและทำความเข้าใจบ่อยๆน่ะครับ และที่สำคัญท่านผู้อ่านเองสามารถอ่านบทละครหนัง หรือ A Wimpy Kid Diary หรือไม่ว่าจะเป็นนิยายเด็กเรื่องใดก็ตาม ไปพร้อมๆกับการทำความเข้าใจ ทั้งเรื่องของ กาลเวลา ประโยค และคำศัพท์ใหม่ๆ

 *** ปล. หนังสือที่ผู้เขียนกล่าวถึงน่าจะหมายถึงหนัง The New Road   ที่เขียนโดย "พฤษะศรี" 
 ซึ่งสามารถหาซื้อได้จากซีเอ็ด หรือลองหาดูจากร้านหนังสือใกล้บ้านค่ะ 
 แต่ที่แน่ๆ  น้องๆหนูๆนักเรียนพี่ว่าน่าจะไปค้นหาจากห้องสมุดแล้วลองยืมมาอ่านดูก่อนนะคะ :)
                                                                                                                                                    

 *** และสำหรับบทละคร  ได้มีผู้ใจดีแจกลิงค์ให้โหลดกันได้ที่ :  http://www.mediafire.com/?c5qgub8bzeeu4ez  

เนื้อหาทั้งหมดของบทความ พูดภาษาอังกฤษให้ดี แนวจิตวิทยา
ตอนที่ 1 :    ให้ทุกคนคิดว่าตัวเองเป็นเด็กฝรั่งที่กำลังเริ่มหัดพูด หัดอ่าน หัดเขียน
ตอนที่ 2 :    อุปกรณ์และขั้นตอนในการเรียน(ด้วยตัวเอง)
ตอนที่ 3 :    การพูดอ่านและเขียนมีหลักการเดียวกัน 
ตอนที่ 4 :    การหาวัตถุดิบ(หนังสือ อินเตอร์เน็ต คน และแรงบันดาลใจ)
ตอนที่ 5 :    การหาวัตถุดิบ หรือ Input(2)
ตอนที่ 6 :    รู้จักการเลียนแบบน้ำเสียง แล้วนำไปใช้
ตอนที่ 7 :    สิ่งที่ควรรู้ในการเรียนภาษาอังกฤษ
ตอนที่ 8 :    มาต่อที่เรื่องของวัตถุดิบ หรือ Input(3)
ตอนที่ 9 :    ยังคงอยู่ที่เรื่องของวัตถุดิบ หรือ Input(4)
ตอนที่ 10 :  ประสบการณ์การทดลองส่วนตัวในการเรียนภาษาอังกฤษ


ติดตามตอนต่อไป คลิ๊กที่นี่ค่ะ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น